วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การเขียน Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน)

การเขียน Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน) 
เราควรมาทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Portfolio ที่สมบูณณ์ควรมีรายละเอียดอย่างไร 
ในพอร์ตโฟลิโอของควรมีข้อมูลต่างๆต่อไปนี้
- กิจกรรมที่เคยทำตั้งแต่ตอนที่เป็นนักเรียน หรือนักศึกษา ผลงาน เกียรติบัตรที่เคยไดัรับ เช่นเคยเป็นคณะกรรมการนักเรียน เคยร่วมแข่งขันกีฬาฯ เคยร่วมจัดโครงงาน คือเคยทำอะไร เมื่อไร ก็นำมาประกอบกัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่กิจกรรมทุกอย่างที่เข้าร่วม เพราะบางทีถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้ผู้อ่าน ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าของผลงาานสนใจอะไรกันแน่
- ในส่วนนี้อาจใส่ความรู้สึกของคนอื่นที่มีต่อกิจกรรมที่เราทำ หรือ ความรู้สึกที่มีต่อตัวเราในการทำกิจกรรมนั้นๆ 
- นอกจากนั้นควรบันทึกเรื่องของความภูมิใจ และรางวัลที่เคยได้รับในกาณทำกิจกรรม หรือการเรียน และถึงแม้ไม่ได้รับรางวัลใดๆแต่การเข้าร่วมประกวดแข่งขันต่างๆก็บ่งบอกถึงความสนใจของเรา นักเรียนก็สามารถบันทึกได้เช่นกัน

ในเรื่องนี้ขอยกตัวอย่างในการพิจารณา เปรียบเทียบพอร์ตโฟลิโอของบุคคลสองคน
- พอร์ต ที่หนึ่ง เข้าร่วมประกวดถ่ายภาพและได้รับรางวัล จากการประกวด มีหลักฐานรางวัล แสดงไว้ 
- พอร์ตที่สอง ถึงแม้ไม่เคยรับรางวัลแต่ส่งเข้าร่วมประกวดมากมาย พร้อมมีรูปงานแสดงภาพถ่ายต่างๆที่ตนเองเข้าร่วมประกวด

ผู้พิจารณาคงพิจารณาว่า เจ้าของพอร์ตที่สองน่าจะเป็นผู้ที่เหมาะสมกว่า ถ้าต้องคัดเอาเพียงคนเดียวเพื่อเข้าเรียนสาขาการถ่ายภาพ บางทีแค่การไปร่วมงาน ไปดูงานนิทรรศการ ที่เราสนใจก็นำมาบันทึกได้ เพราะพอร์ตคือสิ่งที่จะบ่งบอกความสนใจในตัวเรา บางคนสนใจเรื่องวิชาการ ก็เอาเกรด เอารายงานที่ทำระหว่างเรียน เอาเรื่องราวของการทำโครงงานด้านวิชาการต่างๆ ที่เคยทำมาแสดง มาสรุป หรือนำภาพถ่ายของตนเองในงานนั้นๆมาบันทึกไว้ในพอร์ต ก็ดูน่าสนใจครับ 
คนที่สนใจด้านสังคมก็เอากิจกรรม ที่ทำ บางทีอาจให้เพื่อนเขียนถึงเราก็ได้ว่าเราดีตรงไหน ประทับใจอะไรเรา ให้ครู พ่อแม่ หรือคนที่เรารู้จัก เขียนถึงเราได้ทั้งนั้นไม่ผิดกติกามีนักเรียนถามว่า การบันทึกพอร์ตโฟลิโอต้องมีหลักฐานหรือไม่ 
ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าผู้อ่านสนใจเขาก็มาถามเราต่อได้ เช่นถ้าเราเคยร่วมกิจกรรมปลูกป่า แต่เราไม่มีรูป เราก็อาจเขียนความประทับใจในงานนั้น โดยไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนเซ็นรับรอง ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ
นักเรียนที่สนใจด้านเทคโนโลยี อาจทำพอร์ตแบบดิจิตอล คือทำเป็น เวป หรือโปรแกรม นำเสนอ ก็ดูน่าสนใจ ใส่ภาพ เสียง จะเป็นการบ่งบอกความสนใจของเราได้อย่างดี
คำถามที่ว่าจะใช้กระดาษอย่างไร ความหนาเท่าไร หรือ จำนวนกี่หน้า นั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และความต้องการนำเสนอของเจ้าของผลงานเอง เพราะพอร์ตที่แสดงความเป็นตัวเราได้นั่นคือพอร์ตโฟลิโอที่ดี เคยเห็นพอร์ตของนักเรียนที่ สนใจด้านศิลปะ ทำออกมาไม่กี่หน้าแต่ออกแบบน่าสนใจ มีทั้งภาพกราฟฟิค และภาพถ่ายที่ตั้งใจทำอย่างดี อย่างนี้เอาไปสมัครเข้าเรียนต่อด้านศิลปะ การออกแบบสื่อ ก็น่าจะประสบความสำเร็จ
การที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มมีการกำหนดให้ พอร์ตโฟลิโอ เป็นส่วนหนึ่งของการคัดนักเรียนเข้าเรียนต่อ หรือเข้าสมัครงาน เป็นเรื่องที่น่าจะให้ความสำคัญ น่าจะมีผลดีกว่าการคัดนักเรียนเข้าศึกษา หรือคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน นอกเหนือจากการสอบเพียงอย่างเดียว 
บางคนไม่เคยคิดเคยทำประโยชน์อะไรให้สังคมส่วนรวมเลย แต่สอบเข้าคณะส้งคมสงเคราะห์ อย่างนี้จะหวังให้จบมาทำงานด้านนี้ คงยาก
การคัดเลือกโดยใช้พอร์ตโฟลิโอเป็นส่วนประกอบจึงน่าจะช่วยให้มหาวิทยาลัยได้คัดเอาผู้ที่มีความสนใจ ในสาขาวิชานั้นๆ เข้าไปเรียน หรือคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน ซึ่งจะทำให้นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในการเรียน การเรียนต่อ หรือ การทำงานในอนาคต



องค์ประกอบหลักๆ ของ Portfolio ที่สมบูรณ์ 

1.หน้าปก
ควรออกแบบให้สะดุดตา แบบเห็นปุ๊บแล้วคนหยิบขึ้นมาอ่านปั๊บ ถ้าหน้าตาดีก็ใส่รูปตัวเองลงไป present ตัวเองเต็มที่ เข้าใจง่าย สรุปเนื้อหา และ มีรายละเอียดครบถ้วนคือ ของใคร ชั้นอะไร เรียนที่ไหน เมื่อไร อย่างไร เหตุใด ฯลฯ (แต่ต้องเน้นส่วนที่เป็นตัวของเราที่สุด ทำออกมาให้เป็นตัวของตัวเอง)

2.ประวัติส่วนตัว
นำเสนอตัวเองเต็มที่เลย ประวัติทางด้านสถานศึกษา ถ้าจะให้ดี ขอแนะนำว่าให้ทำเป็น 2 ชุด คือ ส่วนที่เป็นภาษาไทย รวมไปถึงข้อมูลที่เป็น personal data และส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษนั่นเอง เพื่อแสดงความสามารถของตนให้แฟ้มดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

3.ประวัติทางการศึกษา 
ให้เรียงลำดับจากการศึกษาที่น้อยสุด จนกระทั่งปัจจุบันและผลสรุปของผลการเรียนที่ได้ครั่งล่าสุดควรเน้นเป็นส่วนท้ายที่เห็นเด่นชัดที่สุด(อาจมีเอกสารรับรองผลการเรียนแนบมาด้วยก็ได้ จะดีมาก)

4.รางวัลและผลงานที่ได้รับ
เขียนในลักษณะเรียงลำดับการได้รับ จากปี พ.ศ.(ในส่วนนี้ไม่ขอแนะนำว่าต้องใส่เกียรติบัตรลงไป เพราะอาจทำให้แฟ้มดูไม่มีจุดเด่น เพราะมันเด่นหมด ควรไปเน้นข้อต่อไปดีกว่า)

5.รางวัลและผลงานที่ประทับใจ
เป็นผลงานหรือรางวัลที่ได้รับ และเกิดความภาคภูมิแบบสุดๆ รางวัลแบบนี้แหละที่เป็นรางวัลแห่งชีวิตข้าพเจ้า (ควรใส่หลักฐานลงไปด้วยอาจมีรูปถ่ายประกอบจะดีมาก)

6.กิจกรรมที่ทำในโรงเรียน
เช่นเป็นประธานนักเรียน กิจกรรมในชมรม หรืออย่างอื่นใส่เพื่อให้รู้ว่าเรามีประสบการณ์จากการทำงาน หรือตรงส่วนนี้จะใช้เป็นงานพิเศษที่กำลังทำก็ได้ หากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจะทำให้ผลงานมีคุณค่ามากขึ้น คนหยิบขึ้นมาอ่านจะเห็นคุณค่าของเราตรงนี้ อาจมีเอกสารแสดงด้วยจะดีมากค่า)

7.ผลงานตัวอย่าง
คือ งานหรือรายงานที่คิดว่าภาคภูมิใจมากที่สุดจากการเรียนที่ผ่านมา เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ รายงาน การวิจัยต่างๆ อาจนำเสนอใน 5 รายวิชาหลัก เป็นต้นห

8.ความสามารถพิเศษต่างๆ 
ควรโชว์ในความสามารถพิเศษที่คนทั่วไปมีอยู่เป็นส่วนน้อยที่สามารถทำได้ หรือเป็นความสามารถพิเศษที่สามารถสอดคล้องกับคณะ ที่เราต้องการศึกษาต่อ หรือถ้าไม่มี ก็เป็นความสามารถพิเศษทั่วๆ ไป เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี หรือ กีฬา ฯลฯ
ในแต่ละหัวข้อถ้าหากมีการแสดงรูปถ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยจะดีมากๆ ขอให้แฟ้มสะสมผลงานของเพื่อนๆ ออกมาน่ารักกันทุกคน